ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือน มี.ค.65 ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆปรับตัวสูงขึ้นมาก และส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้มีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปีของสหรัฐฯ ที่ติดลบ (Inverted Yield Curve) ทำให้ผู้ลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession)
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท.เปิดเผยว่า จากปัจจัยภายในประเทศที่มีความเชื่อมโยงไปยังรัสเซียและยูเครนค่อนข้างน้อย และเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคบริการและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมืองในอนาคต ทำให้เห็น Fund Flow จากผู้ลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ลงทุนต่างชาติย้ายเงินทุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียน โดยในไตรมาส 1/65 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ทำให้ ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 SET Index ปิดที่ 1,695.24 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.3% จากสิ้นปี 64
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
-ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 SET Index ปิดที่ 1,695.24 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.3% จากสิ้นปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในอาเซียน
-SET Index ในไตรมาส 1/65 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 64 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มทรัพยากร
-ในเดือน มี.ค.65 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 95,532 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาส 1/65 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,240 ล้านบาท โดย ผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สี่ โดยในเดือน มี.ค. 65 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 32,771 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 131,367 ล้านบาท
-ในเดือน มี.ค.65 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 1 บริษัท ได้แก่ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ประกอบธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ-ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ซึ่งมีมูลค่าเสนอขายกว่า 5,000 ล้านบาทซึ่งมีมูลค่าติด 1 ใน 5 ของ IPO ใน ASEAN สำหรับไตรมาส 1/65
-Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 อยู่ที่ระดับ 17.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 18.4 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า
-อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.63% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.41%
ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือน มี.ค.65 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 701,944 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures, Single Stock Futures และ Gold Online Futures และในไตรมาส 1/65 TFEX ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 631,382 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.6% จากไตรมาส 1/64
อ้างอิง
https://siamrath.co.th/economy